การวิจารณ์เรื่องสั้น เรื่อง สนิม โดย นทธี ศศิวิมล
ผู้วิจารณ์ นางสาวสกุณา
วงบุราณ
เขียนโดยนางสาวสกุณา วงบุราณ
การตั้งชื่อเรื่อง
การตั้งชื่อเรื่องว่า
“สนิม” เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการกระทำของตัวละครลักษณะเหมือนสนิมที่เกิดขึ้นได้เสมอ เหมือนสิ่งของอยู่นานการทำงานก็เสื่อมสภาพลงเมื่อเวลาผ่านไปสนิมก็ติดมา
บอกให้รู้ว่าสิ่งนั้นมีอายุประสิทธิภาพเป็นอย่างไร มีรอยตำหนิแล้วดังเช่น เดียวกันกับจิตใจคนโดยเฉพาะผู้อำนวยการโรงพยาบาล (หมอใหญ่)
ซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่เป็นสนิม บุคคลที่ไม่คาดคิดว่าจะมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเห็นผลประโยชน์ที่เป็นปัจจัยภายนอก
ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ยกย่องคนที่ทำผิดหากจะว่าไปแล้วก็หลงในเรื่องอำนาจของตัวบุคคล
คนที่ว่านี้คือนายหารผู้ใหญ่บ้าน
แม้จะเคยกระทำผิดมาซึ่งถือว่าร้ายแรงนักต่อชีวิตที่เหมือนกับหักผังดังตอไม้ สนิมติดอยู่ในใจคนมันยากที่จะลบเลือน
ตัวละคร
แพทย์หญิงวิชุดา: จิตแพทย์สาวที่มีลักษณะเป็นคนช่างสังเกต
เป็นคนอัธยาศัยดี มี
มนุษยสัมพันธ์ที่ดี ไม่มีอคติต่อใคร เธอได้ดูแลคนป่วยชื่อนายประชา
ที่เป็นคนร้ายเมายาบ้า และเด็กสาวชื่อขอนขาวที่เธอเอ็นดูและรักเหมือนลูก
นายประชา: เขาเป็นผู้ป่วยทางจิตมาบำบัดรักษาและเป็นที่น่ารังเกียจของคนในชุมชนเดียวกัน
เข็มขาว: เด็กสาวที่ไม่มีความสดใสสมวัย เป็นบุคคลที่น่าสงสารเธอมีชีวิตที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ
ไม่มีความสุขโดนสังคมว่าร้ายต่าง ๆ นา นา
กุลนัดดา (แต้ว): พยาบาลที่ทำงานก่อนหมอวิชุดาจะผ่านประสบการณ์กับคนป่วยในหลายรูปแบบ
เป็นคนที่จิตใจดี คอยช่วยเหลือคุณหมอมาตลอด
มองชีวิตว่าควรทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
นายเหิร: เป็นผู้ใหญ่บ้าน
ร่างใหญ่ ผิวคล้ำ ท่าทีมีอำนาจ เป็นคนที่ไม่มีภาวะผู้นำ จิตใจโหดร้าย
ข่มขืนได้แม้กระทั่งเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ที่ยังมีอนาคตอีกยาวไกล
หมอใหญ่: ผู้อำนวยการ ที่มีลักษณะเป็นผู้ให้คำแนะนำแก่คุณหมอรุ่นน้องโดยเฉพาะหมอวิชุดา
โดยจะเน้นเสมอว่าการดูแลผู้ป่วยไม่ควรจะเอาใจใส่มากเพราะจะไม่สารถให้ผู้ป่วยช่วยเหลือตนเองได้
เนื้อเรื่อง
หมอวิชุดาจิตแพทย์ที่ย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ซึ่งเป็นอีกโลกหนึ่งที่แปลกประหลาดจากที่เธอเคยเห็น
วิถีชีวิตของคนแตกต่างชีวิตของคนที่นั่นเหมือนเป็นโลกแห่งนิยายที่ไม่น่าเกิดขึ้นจริง
เธอได้รับผิดชอบดูแลคนป่วยชื่อ นายประชา อายุ ๕๒ ปี เป็นชายสติไม่สมประกอบเนื่องจากอดีตเขาเคยติดคุก
เป็นคนเมายาบ้า จี้จับเด็กเป็นตัวประกัน และไม่ได้ออกจากคุก ชาวบ้านก็ไม่มีใครชอบหน้าไม่ให้กลับเข้าไปอยู่ในหมู่บ้าน
จึงเกิดความเครียดมาก งานและเงินก็ไม่มี จึงทำให้เป็นคนเร่ร่อนเก็บเศษขยะ
ทำให้เสียสติไปโดยปริยาย
หลังจากที่ประชาได้รับการรักษาจนสติกลับมาดังเดิมและทางโรงพยาบาลจะส่งตัวกลับบ้านแต่ทั้งนี้เขาไม่มีญาติคนใดที่จะสามารถรับดูแลเขาเลยเพราะญาตินั้นเกรงว่าประชาจะกลับไปทำร้ายลูกหลานของเขา
ทางโรงพยาบาลจึงตัดสินใจไปอยู่บ้านเก่าพ่อของเขาที่ตายจากไปบ้านหลังนั้นร้างมานานสภาพเก่าคร่ำครึ
ขาดน้ำขาดไฟใช้
แต่ยังดีที่ไอ้เปี๊ยกและภรรยาคนข้างบ้านอาสาจะทำหน้าที่ดูแลนายประชาเอง
และโชคดีที่กำนันจะประสานเรื่องน้ำและไปให้
หมอวิชุดาเห็นดังนี้ก็รู้สึกโล่งใจที่ทำให้คนหนึ่งกลับไปมีชีวิตและอิสระดังเดิม
ต่อมาหมอวิชุดาก็ได้ดูแล รักษาเข็มขาวเด็กสาว ที่โดนข่มขืนตั้งแต่อายุ
๑๖
ปี ซึ่งเธอน่าสงสารมากโดนกระทำอนาจารโดยนายเหิรผู้ใหญ่บ้านที่หลาย
คนคิดไม่ถึงเพราะว่าเป็นถึงผู้นำหมู่บ้านไม่น่าจะประพฤติตนเช่นนี้
ชีวิตของเข็มขาวอยู่อย่างไม่เป็นสุขเธอเสียสติอาละวาด และหวาดระแวงอยู่เสมอ
แต่
อย่างไรก็ดีหมอวิชุดานอกจากจะสงสารเข็มขาวแล้วยังรู้สึกรักละเอ็นดูเด็กคนนี้เหมือนลูกแต่หมอใหญ่เห็นการวางตัวของหมอวิชุดาไม่เหมาะสมจึงเรียกมาตักเตือนว่าทำเช่นนี้เดี๋ยวคนไข้จะติดหมอถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรมจะเอาคนไข้คืนมาอยู่ในความดูแลของเขา
แต่แล้วหมอใหญ่ยังให้โอกาสหมอวิชุดาปรับปรุงแก้ไขการทำงานอยู่ และช่วงที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง อบต. นายเหิรจะลงสมัครหมอใหญ่เป็นหัวคะแนนให้ ยกย่องผลงานที่ทำกับชุมชน และความดีที่นายเหิรทำให้แก่โรงพยาบาลมากมายบอกแก่หมอวิชุดาซึ่งมีสิทธิ์เลือกตั้งที่นั่นเนื่องจากย้ายสำเนาทะเบียนบ้านมาแล้ว
และเหตุการณ์สุดท้ายของเรื่องนี้คือในวันหยุดที่หมอวิชุดาไม่ไปทำงานตื่นขึ้นมาเห็นซองสีขาวถูกเขียนด้วยปากกาเมจิก
ว่า “หมอวิชุดา”อยู่ใต้ประตูของบ้านพักเธอ
ที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นคือเห็นเงินแบงก์ ห้าร้อยจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ
เธอสงสัยว่าเงินนี้มาจากไหน แต่ก็มีเสียงกระซิบของพยาบาลแต้วลอยมาเบา ๆ ว่า
เรื่องบางเรื่องเราอาจจะไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้นะคุณหมอ ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว
แก่นเรื่อง
จิตใจคนไม่แน่นอนแปรเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อมและสังคมที่เป็นอยู่ ปัจจุบันคนมัก วัดค่าของ
คนที่หน้าตาและยศศักดิ์ไม่คิดคำนึงถึงความถูกต้อง
และทำให้ทราบว่าใจคนก็ย่อมเกิดสนิมได้เฉกเช่นเดียว
กับสิ่งของ
การใช้ภาษา
การใช้ภาษาในเรื่องสนิมเป็นไปอย่างเรียบง่ายชวนฟัง
น่าติดตาม เนื่องจากเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครและเรื่องราวค่อนข้างเป็นเรื่องน่าเศร้าเกี่ยวกับชีวิตคนที่มีเรื่องเลวร้ายผ่านมาในชีวิต
มีการใช้บทสนทนาที่เห็นภาพความเป็นธรรมชาติของตัวละครแต่ละครและมีการใช้ภาษาที่มีความไพเราะโดยจะใช้อุมาโวหารเข้ามาช่วยในการเขียนเรื่องสั้นให้สำนวนภาษาของผู้เขียนมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น
“เด็กสาวที่นอนหลับอยู่ตรงหน้าดูเหมือนดอกไม้กลีบบางที่เต็มไปด้วยรอยบอบช้ำ บาดแผลจากภายนอกทำร้ายเธอไปทั้งชีวิต...
”
การใช้อุปมาคำว่าเหมือน
มาเปรียบเทียบให้เห็นว่าเด็กสาวเปรียบเสมือนดอกไม้
ซึ่งตามปกติแล้ว เราจะรับรู้ว่าดอกไม้โดยเฉพาะดอกไม้ที่เริ่มผลิดอกออกใหม่นั้นจะมีความสดใสสวยงาม
แต่ในเรื่องนี้เข็มขาวแม้จะเป็นเด็กสาวก็จริงชีวิตเธอไม่ได้สวยงามเหมือนเด็กคนอื่น
ๆ
เธอโดนข่มขืนเป็นการถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงจนทำให้เด็กมีตราบาปไปตลอด
จึงเป็นเหมือนดอกไม้ที่มีรอยบอบช้ำและไม่น่ามองเหมือนดอกอื่น ๆ
การซ้ำคำ
คำว่า “สนิม”
ในเรื่องสั้นนี้จะปรากฏชัดในการเล่นคำว่า
“สนิม” มีให้เห็นหลายตำแหน่งโดยแต่ละตำแหน่งจะ สอดคล้องกับการผูกปมเรื่องให้สอดคล้องกับชื่อเรื่องว่าสิ่งใดบ้างที่เกิดสนิมและสุดท้ายก็รู้ว่าใจคนก็เกิดสนิมได้เช่น
ซึ่งถือว่าเพิ่มความน่าสนใจมาก ตัวอย่างเช่น
“แฟ้มเหล็กเย็นชื้นติดมือ ขอบด้านบน
โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นบานพับเริ่มมีคราบสนิมเกาะ” (หน้า ๒๒๒)
“เหตุเพราะบานพับและหมุนนอตยึดต่าง ๆ ถูกสนิมกัดกินจนไม่เหลือเนื้อเหล็ก”
(หน้า
๒๒๓)
“อากาศอย่างนี้สนิมชอบของพี่อย่าว่าแต่จักรยาน
ขนาดกิ๊บติดอยู่บนหัวแท้ ๆ สนิมก็ยังขึ้นจักรยานใหม่ของหมอจ๋าต้องหมั่นทาน้ำมันกันสนิมบ่อย
ๆ นะ”
จะเห็นได้ว่าการที่ผู้เขียนยกคำว่า สนิม มาซ้ำใช้เล่นคำบ่อย ๆ
ทั้งนี้
ก็ เพื่อจะบอกจุดมุ่งหมายสำคัญ ว่าจิตใจคนไม่ได้แตกต่างไปจากสิ่งของเครื่อง
ใช้เลยแม้เริ่มต้นหรือมองแค่เพียงผิวเผินไม่สามารถบอกได้ว่า คน
ๆ นี้จะเป็น
คนจิตใจดีจริง
ถึงตำแหน่งหน้าที่จะหน้าเชื่อถือก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเขาดีจริง
สอนให้รู้ว่า หากร่างกายเราจะเริ่มมีสนิมเข้าไปก็ควรจะป่องกันโดยการหาน้ำมันมาหยอดไว้
ชำระล้างใจให้ปราศจากสิ่ง ชั่วร้ายก้าวผ่านมันไปให้ได้แล้วเมื่อนั้นเราก็จะเป็นคนที่น่ามองและน่ายกย่องต่อไป
อ่านแล้วได้ความรู้เกี่ยวกับภาษาไทยค่ะ มาเม้นแล้วน้ะค่ะ
ตอบลบนส.สมศิริญาพร ป้องสุวรรณ 587210140319 เลขที่19
อ่านแล้วได้ความรู้เกี่ยวกับภาษาไทยค่ะ มาเม้นแล้วน้ะค่ะ
ตอบลบนส.สมศิริญาพร ป้องสุวรรณ 587210140319 เลขที่19
ขอบคุณค่ะ
ลบโห สาระเพียบเลยค่ะ
ตอบลบนางสาวสุภัค สุรเกียรติสมบัติ รหัสนักศึกษา 587210140324 ป.บัณฑิตวิชาชีพครู หมู่ 3
รู้ในหลักการใช้เพิ่มขึ้น เยี่ยมมากเลยจรา นางสาวศิริลักษณ์ สิงธิมาตร รหัสนักศึกษา 587210140316 วิชาชีพครู หมู่ 3
ตอบลบอ่านแล้วได้ความรู้มากเลยค่ะ น.ส. หนึ่งฤทัย บุคคละ 587210140325 วิชาชีพครู หมู่3
ตอบลบดีมากๆเลยค่ะ น.ส. รัตน์ชุนี คลังเงิน 587210140313 วิชาชีพครู หมู่3
ตอบลบคงต้องหาฉบับเต็มมาอ่านแล้วล่ะค่ะ น่าสนใจมากๆ(น.ส.ปรียานุช อนุนิวัฒน์ 587210140308)
ตอบลบได้ความรู้เพียบเลยค่ะ สุดยอดค่ะ
ตอบลบนางสาวสุจิตรา. ประโคศรี 587210140322
เยี่ยมๆ นางสาวปาริมา แพรสีเขียว 587210140309 ป.บัณฑิตวิชาชีพครู หมู่ 3
ตอบลบเป็นอีกด้านของภาษาที่น่าสนใจมากค่ะ
ตอบลบ>>>นางสาวสุกัญญา ประดาพล รหัส 587210140321 ป.บัณฑิต หมู่ 3 ค่ะ
ต้องหามาอ่านบ้างแล้วค่ะ
ตอบลบนางสาวจุฑารัตน์ รัตนวงษา รหัสนักศึกษา 587210140301 ป.บัณฑิตวิชาชีพครู หมู่ 3
เนื้อหาสาระดีมากค่ะ น.ส.มุธิตา จันทะเกตุ รหัสนักศึกษา 587210140312 ป.บัณฑิตวิชาชีพครู
ตอบลบเนื้อหาสาระดีมากค่ะ ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ นางสาวสมพักตร์ วิเศษแก้ว 587210140318
ตอบลบป.บัณฑิตวิชาชีพครู
ขอบคุณสำรับเนื้อหาดีๆ
ตอบลบอยากได้หนังสือเล่มนี้ค่ะ ซื้อได้ที่ไหน
ตอบลบมีกี่หน้าหรอคะ
ตอบลบ